ปัจจุบันทุกภาคส่วนต่างให้ความสำคัญและให้ความสนใจกับเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น

บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน เนื่องจากประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนเป็นประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหว และสามารถเชื่อมโยงกับประเด็นอื่นๆ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสียในทุกกิจกรรมของธุรกิจหลักตลอดห่วงโซ่คุณค่า และได้กำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักการด้านสิทธิมนุษยชนสากล บริษัทฯ ตระหนักดีว่าศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์นั้น ควรได้รับความคุ้มครอง จึงยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนเสมอมา

ความเสี่ยง

บริษัทฯ ดูแลพื้นที่เมืองขนาดใหญ่และเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก หากบริษัทฯ ไม่มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน  อาจทำให้บริษัทฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและระดับสากล

โอกาส

หากบริษัทฯ มีการประเมินความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดจากกิจกรรมของบริษัทฯ หรือคู่ค้าและผู้รับเหมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่มีต่อบริษัทฯ

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิมนุษยชน และได้ประกาศ “นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน” เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ ในการดำเนินงานที่เคารพสิทธิมนุษยชนในทุกกิจกรรมทางธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงมีการสื่อสาร และปลูกฝังค่านิยมด้านสิทธิมนุษยชน (Embedding Respect) ในระดับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้รับเหมา และชุมชนท้องถิ่น จากการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยนอกจากจะประกาศนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทฯ ได้ยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายทั้งในและต่างประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ และใช้หลักสิทธิมนุษยชนสากล หลักการด้านมนุษยธรรมและสิทธิขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (Principles of the United Nations Global Compact; UNGC) เป็นแนวทางในการดำเนินงาน

บริษัทฯ กำหนดให้ คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ ต้องตระหนักถึงความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในทุกด้านของบุคคลทุกคน ทั้งต่อพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าและผู้รับเหมา ชุมชน ตลอดจนสังคมโดยรวม ตามกฎหมายแต่ละประเทศที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ และพร้อมสนับสนุนตามสนธิสัญญาที่แต่ละประเทศมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติ โดยรวมถึงหลีกเลี่ยงการกระทำและการมีส่วนร่วมในการอันละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือสร้างผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายความรับผิดชอบด้านสิทธิมนุษยชนไปยังคู่ธุรกิจ คู่ค้าและผู้รับเหมา โดยส่งเสริมให้คู่ธุรกิจ คู่ค้าและผู้รับเหมาในห่วงโซ่คุณค่าเคารพในสิทธิมนุษยชนเช่นกัน และดำเนินธุรกิจตามหลักการที่ระบุไว้ในจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าของบริษัท (Supplier Code of Conduct)

บริษัทฯ มี “นโยบายการแจ้งเบาะแส” (Whistleblowing Policy) และจัดให้มีช่องทางการสื่อสารต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องทุกข์ที่เกี่ยวกับการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนใดๆ และบริษัทฯ มีกระบวนการพิจารณาและจัดการข้อร้องเรียนอย่างรอบคอบ ยุติธรรม และโปร่งใส พนักงานผู้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นการกระทำผิดจรรยาบรรณของบริษัทฯ จะต้องได้รับการพิจารณาทางวินัยตามระเบียบที่กำหนดไว้ นอกจากนี้อาจจะได้รับโทษตามกฎหมายหากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย

ในปีนี้ บริษัทฯ ได้ระบุประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียแต่ละกลุ่มตลอดห่วงโซ่อุปทานโดยครอบคลุมกิจกรรมในหน่วยงานร้อยละ 90 ของหน่วยงานทั้งหมด และมีการดำเนินงานเพื่อตอบสนองหรือป้องกันการเกิดผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในประเด็นดังกล่าว แต่ยังไม่ได้ทำการประเมินและตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) อย่างเต็มรูปแบบตามหลักการชี้นำของสหประชาชาติว่าด้วยการดำเนินธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (UN Guiding Principles on Business and Human Rights) ซึ่งบริษัทฯ มีแผนการดำเนินงานในเรื่องนี้ภายในปี 2566 เพื่อให้เชื่อมั่นว่า การบริการ การปฏิบัติด้านแรงงาน การปฏิบัติต่อคู่ธุรกิจและคู่ค้า การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงาน การร่วมลงทุน จะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย และเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง

การดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

StakeholderHuman Rights IssueCompany’s Implementation of Human Rights Impact Reduction
พนักงาน

สิทธิแรงงานตามกฎหมาย

  • ความเท่าเทียมกัน
  • ความปลอดภัยในการทำงาน
  • เสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรอง
  • การปฏิบัติต่อพนักงานโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน ตามหลักกฎหมายแรงงานในประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจและหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเสมอภาค (Equality) และการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination) ในทุกมิติ

  • การจัดให้มีการดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยในสถานที่ทำงานตามนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม

  • จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการที่มีพนักงานร่วมเป็นกรรมการ

ชุมชน

สิทธิชุมชนตามกฎหมาย

  • สุขภาพและความปลอดภัย
  • การมีส่วนร่วมของชุมชน
  • ติดตามสำรวจผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีต่อชุมชนโดยรอบ และดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อลดผลกระทบจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

  • เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือร้องเรียนในช่องทางต่างๆ รวมถึงการร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อร่วมกันดูแลความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมโดยรวมในพื้นที่

ลูกค้า

สิทธิของลูกค้าตามกฎหมาย

  • คุณภาพสินค้าและบริการ
  • ความปลอดภัย
  • การรักษาความลับของลูกค้า
  • ส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสามารถทวนสอบย้อนกลับได้ (traceability)

  • มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนจากลูกค้า 

  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด 

  • มีนโยบายและมาตรการคุ้มครองข้อมูลความลับของลูกค้า

คู่ค้าและผู้รับเหมา

สิทธิของคู่ค้าและผู้รับเหมาตามกฎหมาย

  • สุขภาพและความปลอดภัย
  • สิทธิของแรงงานของคู่ค้า
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด 

  • ปฏิบัติต่อคู่ค้าด้วยความเสมอภาค (Equality) ยุติธรรม โปร่งใส และการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination) 

  • ประกาศจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าของอมตะ (Supplier Code of Conduct) โดยมีการประเมินความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดจากการดำเนินงานของคู่ค้าและผู้รับเหมา พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันและรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นด้วย

แนวทางการบริหารจัดการด้านสิทธิเด็ก

ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยึดปรัชญา ALL WIN ในการดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด โดยมีเป้าหมายให้ผู้มีส่วนได้เสีย ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ ได้รับประโยชน์และเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ อย่างยั่งยืนในทุกมิติ แม้ว่า ประเด็นด้านสิทธิเด็ก จะยังไม่ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ แต่การขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ ดำเนินการในทุกพื้นที่ย่อมเกี่ยวข้องทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ต่อคุณภาพชีวิต โอกาส และการเจริญเติบโตในสังคมของเด็ก ที่อาศัยอยู่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้งสองแห่ง อีกทั้งในปัจจุบัน ประเด็นด้านสิทธิเด็กถูกให้ความสำคัญในระดับสากล บริษัทฯ จึงคำนึงถึงการดำเนินงานที่เคารพต่อสิทธิเด็กตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจด้วย

บริษัทฯ ได้ใช้หลักการ “สิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ” (Children’s Right and Business Principle; CRBP) โดยองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) มาเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เคารพต่อสิทธิเด็ก ประกอบไปด้วย 4 หลักการที่ธุรกิจจะสร้างผลกระทบต่อเด็กคือ 1) การสนับสนุนให้เด็กสมารถดำรงชีวิตได้ (Survival) 2) การปกป้องเด็กจากความรุนแรง (Protection) 3) การพัฒนาที่เหมาะสม (Development) และ 4) การเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วม (Participation)  โดยกำหนดกรอบการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองสมบูรณ์แบบที่สร้างโอกาสให้กับเด็ก และตอบสนองต่อหลักการ CRBP ดังนี้

เมืองแห่งความปลอดภัย (Safety City)

เพื่อสร้างสังคมที่ร่วมป้องกัน (Protection) และสนับสนุนการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย (Survival) โดยบริษัทฯ ได้ประกาศนโยบาย และหลักจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมา (supplier code of conduct) ที่ป้องกันไม่ให้ใช้แรงงานเด็กอย่างเคร่งครัด รวมถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจที่ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในสังคมที่เด็กอาศัยอยู่ เช่น การพัฒนาเมืองสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (smart environment) ที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ การบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ และลดการฝังกลบ (zero waste to landfill) เป็นต้น

เมืองแห่งโอกาส (Opportunity)

บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้เด็กในชุมชนโดยรอบมีโอกาสในการเข้าถึงสาธารณูปโภค และบริการต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และศูนย์การค้า

เมืองแห่งการศึกษา (Edu-town)

บริษัทฯ ได้ผสานความร่วมมือของหุ้นส่วนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ และการศึกษาขึ้นอย่างหลากหลายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ทั้งสองแห่ง เช่น ศูนย์การเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำ ห้องการเรียนรู้อัจฉริยะ (smart classroom) พื้นที่สวนสาธารณะเพื่อการนันทนาการ

ผลการดำเนินงาน

ในปี 2564 บริษัทฯ ไม่ได้รับการร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่มีนัยสำคัญจากผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงไม่มีการรายงานด้านการละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนจากทั้งคู่ค้า ผู้รับเหมา และจากลูกค้า โดยคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ได้มีการรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน และข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนที่รวบรวมจากช่องทางต่าง ๆ ต่อคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ และคณะกรรมการบริษัทรับทราบ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดอบรมหลักสูตร “ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน” โดยวิทยากรจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 เพื่อให้พนักงานเข้าใจหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน และแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ โดยมีผู้บริหาร และพนักงานเข้าร่วมอบรมจำนวน 101 คน คิดเป็นร้อยละ 54.6 ของพนักงานทั้งหมด

ร่วมสร้างอนาคตไปกับอมตะ

AMATA

Contact us for more details.

Thailand
+66 38 939 007
Vietnam

+84 251 3991 007 (South)
+84 203 3567 007 (North)

Myanmar
+95 1 230 5627
Laos

+85 620 5758 0007

© AMATA CORPORATION PCL. All rights reserved.  Web by Toneyes  Web by Toneyes