อมตะ ชูวิสัยทัศน์เมืองอัจฉริยะดึงดูดบริษัทข้ามชาติเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เขียนใน .

ด้วยกลุ่มลูกค้าจาก ญี่ปุ่น จีน เกาหลี และยุโรป ทำให้อมตะกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงการของอมตะที่อยู่ไทย เวียดนาม และลาว จึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่ตลาดภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่

Smart city in the making: Amata’s flagship Chonburi industrial park with country club and golf course in the foreground.

นาย Yoji Okumura ประธานบริษัท Fujita Corporation ยักษ์ใหญ่ด้านการก่อสร้างของญี่ปุ่น มีโอกาสสร้างโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ซึ่งถือเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ถูกก่อสร้างขึ้นในพื้นที่ของนิคมฯ กล่าวว่า “ประการแรกที่นี่ไม่ใช่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรแบบทั่วไป อมตะซิตี้ ชลบุรี เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่โดดเด่นทั้งภูมิศาสตร์ สภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก ของภูมิภาคนี้ภายใต้การบริหารงานของวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งฯ ที่ได้พลิกโฉมพื้นที่เล็กฯนอกเมืองหลวงของประเทศไทย ให้กลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนายั่งยืน ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ที่ผ่านมา

ผู้ประกอบการจาก 28 สัญชาติ พนักงานอีกกว่า 350,000 คน และโรงงานมากกว่า 1,400 แห่ง อมตะกลายเป็นตัวเลือกแรกสำหรับบริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายการผลิตไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจำนวนประชาชนกว่า 660 ล้านคน ครอบคลุมทั้งไทย เวียดนาม และลาว

Fujita Corporation ได้กำไรจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของอมตะ และประสบความสำเร็จในการสร้างโรงงาน 11 แห่งในอมตะซิตี้ เบียนหัว ประเทศเวียดนาม ตอนนี้ Fujita ได้โอกาสร่วมมือกับอมตะ, บริษัท โอกุระ นิกโก้ โฮเทล แมนเนจเม้นท์ จำกัด และกองทุนเพื่อการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สร้างโรงแรมระดับ 4 ดาวภายใต้แบรนด์ นิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี โดยวิสัยทัศน์ของวิกรม กรมดิษฐ์ ที่มีต้องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

อมตะซิตี้ ชลบุรี ตั้งอยู่ใจกลางระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 1 ชั่วโมงจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ใกล้สนามบินและท่าเรือ อมตะซิตี้ ชลบุรี มีสถานประกอบการและผู้ประกอบเชิงพาณิชย์กว่า 800 ราย รวมถึงสนามกอล์ฟระดับโลก ร้านค้า โรงเรียน ธนาคาร และโรงพยาบาล ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บริเวณที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ที่สำคัญในฐานะโรงแรมภายใต้แบรนด์ญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าซึ่งมีโรงงานสัญชาติญี่ปุ่นตั้งอยู่ในอมตะซิตี้ ชลบุรีกว่า 400 ราย และเป็นแหล่งรวมประชาชนกรชาวญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนอกประเทศญี่ปุ่น ในความเป็นจริงญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากในจ.ชลบุรี จนวิกรม กรมดิษฐ์ บรรลุข้อตกลงกับโยโกฮามาซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ด้วยโครงการ "โยโกฮาม่า 2" นั่นคือ โรงแรม นิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี ขนาด 220 ห้อง เปิดให้บริการในปี 2565 เป็นโครงการแรกที่บรรลุผลในแผนแม่บทของโยโกฮาม่า

"จากมุมมองของเราในฐานะบริษัทก่อสร้างที่สร้างโรงงานจำนวนมากในนิคมอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ แนวคิดของอมตะ สมาร์ท ซิตี้ มีความแตกต่างจากที่อื่น และนี่เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ติดต่อกับบริษัทญี่ปุ่นทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีการก่อสร้างของเรา" Okumura กล่าว

ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงลูกค้าชาวญี่ปุ่น นับตั้งแต่เรามีการเปิดนิคมฯแห่งแรกในปี 2532 จากพื้นที่เพียง 37.5 ไร่ จนปัจจุบันครอบคลุมกว่า 62,500 ไร่ และเป็นศูนย์รวมของบริษัทต่างชาติจาก จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ รวมถึงบริษัทจากชาติตะวันตก เช่น บีเอ็มดับเบิลยู,  เนสท์เล่ , คาร์ดิแนลเฮลท์

สำหรับพันธมิตรและลูกค้าหลายราย อมตะนำพาโอกาสที่ดีให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยในปี 2537 มีการขยายโครงการไปยังประเทศเวียดนาม เริ่มจากเวียดนามตอนใต้ในโครงการอมตะซิตี้ เบียนหัว และอมตะซิตี้ ลองถั่น ซึ่งใกล้กับเมืองโฮจิมินห์ และในปี 2564 เพิ่มการขยายของการไปในเวียดนามเหนือเปิดโครงการอมตะซิตี้ ฮาลอง ใกล้กับเมืองฮานอย และชายแดนประเทศจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งของยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานใหม่ในเซี่ยงไฮ้ Jinko Solar หนึ่งในผู้ผลิตแผงโซลาร์รายใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นลูกค้ารายแรกของนิคมฯ

จากนั้นในปี 2565 อมตะประกาศการจัดตั้งโครงการในสสป.ลาว พร้อมแผนการสร้าง “Smart and Eco Cities”   2 แห่งในสปป.ลาว ซึ่งเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เพิ่งเปิดใหม่เชื่อมระหว่างประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลกับจีนและไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

Jiangsu Runergy New Energy Technology เป็นผู้ผลิตโซล่าร์เซลล์รายใหญ่อันดับสามของโลก กำลังศึกษาทางเลือกที่เป็นไปได้เกี่ยวกับความเติบโตของอมตะ และในปี 2563 Runergy เลือกพื้นที่ในอมตะ เพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งแรกนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก “นับตั้งแต่นั้นบริษัทฯ ได้ศึกษาโอกาสในการขยายการพัฒนาของอมตะในเวียดนามและลาวเพื่อมองหาโอกาสในการลงทุน เรามีซัพพลายเออร์และลูกค้าที่ดีมากในอมตะ และที่นั่นคุณจะมีทั้งพันธมิตรและเครือข่ายที่พร้อมสนับสนุนการทำงาน” Song กล่าว

ก่อนที่จะทำงานร่วม Runergy เขาทํางานในสวีเดนเป็นระยะเวลา 10 ปีและมักจะเดินทางไปนิคมอุตสาหกรรมในยุโรปและประเทศอื่นๆของโลก “ผมไม่เคยเห็นนิคมฯที่มีคุณภาพเหมือนอมตะมาก่อน เราทราบดีว่ามีบริษัทจีนจำนวนมากที่มีโรงงานอยู่ในอมตะ เราก็ยังรู้สึกแปลกใจมากที่พบว่าอมตะมีทีมงานชาวจีนที่พร้อมจะช่วยเราได้ พวกเขาตอบคำถามของเราทันทีแม้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์" Song กล่าว

การมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ในภูมิภาคที่ขาดแคลนน้ำและความต้องการน้ำจะเพิ่มขึ้น 5.7 พันล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี 2580 แนวคิดของวิกรม กรมดิษฐ์ คือการทำให้ไม่สูญเสียน้ำแม้แต่หยดเดียว อมตะอาจเป็นบริษัทแรกๆของประเทศไทยที่ตระหนักถึงศักยภาพในการรีไซเคิลน้ำเสีย ไม่เพียงแต่สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเริ่มสร้างโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำบนอ่างเก็บน้ำภายในอมตะซิตี้ ชลบุรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตพลังงานสีเขียว และสําหรับโรงบําบัดน้ำเสีย 100 % ของน้ำเสียถูกนํากลับมาใช้ใหม่ ลดความต้องการน้ำธรรมชาติลง40 %

"อมตะช่วยเราในการจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการผลิตของเรา และเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากพื้นที่อุตสาหกรรมอื่นๆ" Song กล่าว

นอกจากไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติแล้ว การจัดหาน้ำยังเป็นสิ่งสําคัญอันดับแรกสําหรับ POSCO Coated Steel (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนําของโลก โดยมีผู้ผลิตและ Supplier ชั้นนําหลายแห่งตั้งอยู่ในอมตะ

Posco ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 ในอมตะ ซิตี้ ระยอง ประกอบธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กชุบสังกะสีสําหรับเครื่องใช้ภายในบ้านและผู้ผลิตรถยนต์ ตั้งแต่นั้นมาผลประกอบการประจำปีของผลิตภัณฑ์ยานยนต์เพิ่มขึ้นจาก 2,000 ตัน เป็น 153,000 ตัน และมีรายได้มากกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2565 "นี่ถือเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่สําหรับบริษัทฯ อมตะให้บริการที่ดีมาก เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา เพราะพวกเขาจะรับฟังความคิดเห็นของเราเสมอ เรามีช่องทางในการสื่อสารกับพวกเขาได้ตลอดเวลา"  Sanggil Park กล่าวชื่นชมการสนับสนุนของอมตะที่มีต่อบริษัทฯ

Ge Mao Rubber Industrial หรือ GMORS ผู้ผลิตชิ้นส่วนยางชั้นนำในไต้หวัน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยพี่น้อง 6 คน ดำเนินกิจการในไต้หวันและมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน เลือกก่อตั้งโรงงานที่อมตะซิตี้ ชลบุรีเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวนอกประเทศจีน

“ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯในปี 2555 ขนาดของโรงงานได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวและปัจจุบันคิดเป็น  40% ของการผลิต เราวางแผนที่จะขยายกําลังการผลิตที่อมตะในอนาคต" Cheng-ming รองประธานของ GMORS กล่าว

นอกจากนี้ GMORS  ยังเป็นผู้ผลิตซีลยาง O-ring ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย รวมถึงเป็นผู้จัดหายานยนต์ทางการบินอวกาศ เครื่องมือแพทย์ และ semiconductor “ด้วยความหลงใหลในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เฟื่องฟู ผู้คนที่เป็นมิตร และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย บริษัทฯจึงได้เลือกอมตะ เพราะอมตะดีกว่าตัวเลือกอื่นๆ มาก ทั้งในด้านของประสิทธิภาพ ใกล้สนามบินและท่าเรือแหลมฉบัง” Nien Cheng-ming กล่าว

ด้วยทำเลที่ดีเหล่านี้เป็นหลักฐานยืนยันคำพูดของวิกรมที่ว่า "ลูกค้า 98% ถึง 99% ของเราประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์" วิกรม กรมดิษฐ์ ผู้เริ่มต้นจากศูนย์และสามารถพูดได้หลายภาษา  เติบโตในชนบทของจังหวัดกาญจนบุรี ของประเทศไทยและได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน ตอนเด็กๆ เขามีความฝันที่อยากจะทำธุรกิจที่ให้ประสบความสำเร็จให้ได้

ปัจจุบันวิกรม กรมดิษฐ์ อายุ 70 ปี เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยและเป็นนักเขียนที่มีผลงานการเขียนหนังสือกว่า 25 เล่ม และหนังสือที่เขียนสามารถขายได้กว่า 10 ล้านเล่ม ก่อนที่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียนจะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย วิกรม กรมดิษฐ์ จึงมีแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนและการใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ควบคู่กับการทำงาน ไม่เพียงแต่รีไซเคิลน้ำเท่านั้น รวมถึงยังมีการนำพลังงานสะอาดมาใช้ การผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ไปจนถึงการรีไซเคิลขยะ เพื่อให้แน่ใจว่าเมืองอัจฉริยะของอมตะจะสมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยวิสัยทัศน์ต่างๆ ยังช่วยให้ลูกค้าต่างชาติบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

“ความสำเร็จของอมตะนั้นอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่าบริการดี ราคาดี คุณภาพดี "เราไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาการบริการลูกค้าให้ดีขึ้น นี่คือเหตุผลที่เราแตกต่างและเป็นเหตุผลที่ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จและมีความสุขกับที่นี้ พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่การผลิตและการขายได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ" วิกรม กล่าวว่า

ในช่วงแรกของการเดินทางสู่ธุรกิจสตาร์ตอัพวิกรมเลือกใช้ชื่อ “อมตะ” เพราะเป็นคำสันสกฤตที่แปลว่านิรันดร์ "เราอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเรและเป้าหมายของเราคือการเป็นเมืองที่แท้จริง ในอนาคตทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี้จะทํางานและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอมตะโดยไม่จําเป็นต้องออกไปไหน" วิกรม กล่าว

เขาประสบความสำเร็จจากการตั้งเป้าหมายที่คิดในอดีต และเป้าหมายต่อไปในอนาคตจะไม่ไกลเกินไป

ร่วมสร้างอนาคตไปกับอมตะ

AMATA

Contact us for more details.

Thailand
+66 38 939 007
Vietnam

+84 251 3991 007 (South)
+84 203 3567 007 (North)

Myanmar
+95 1 230 5627
Laos

+85 620 5758 0007

© AMATA CORPORATION PCL. All rights reserved.  Web by Toneyes  Web by Toneyes