ลูกค้าเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลประกอบการและความยั่งยืนของบริษัทฯ ประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับจากบริษัทฯ จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ ที่มีผลต่อความสามารถในการดำเนินธุรกิจของลูกค้า หากบริษัทไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า หรือไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันได้ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อบริษัทฯ และชื่อเสียงในระดับภูมิภาคและระดับโลก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบันเป็นผู้นำในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม และมีเครือข่ายกว้างขวาง รวมถึงคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทานที่อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เชื่อมโยงกันทั่วโลก จึงอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศของนักลงทุนและกลุ่มลูกค้าในอนาคตได้
การที่ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีและพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการดึงดูดให้เกิดการซื้อ และการใช้บริการซ้ำ เกิดการแนะนำบอกต่อ และสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้กับบริษัทฯ อันนำมาซึ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้ การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดทำให้บริษัทฯ ได้รับทราบทัศนคติและความคิดเห็นของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้นแล้ว ทั้งยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง
ในปี 2567 บริษัทฯ มีลูกค้าที่เป็นผู้เช่าและผู้ประกอบการโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้งสองแห่งรวม 1,356 ราย ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัทฯ การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว บริษัทฯ ได้ดำเนินการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าผ่านกิจกรรมและช่องทางที่หลากหลาย เพื่อให้ได้ข้อมูลความต้องการของลูกค้า ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าเพื่อร่วมกันลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดห่วงโซ่อุปทาน ในปี 2567 บริษัทฯ ได้จัดประชุมและกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ดังนี้
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทฯ พัฒนาเพื่อตอบสนอง
ความต้องการและความคาดหวัง
ความต้องการและความคาดหวัง
บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ทั้งด้านการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ส่วนกลาง และการบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากบริษัทฯ ได้จัดตั้งสถานีดับเพลิงตามข้อบังคับคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่าด้วยมาตรฐานระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการ สำหรับนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ พ.ศ. 2557 แล้ว บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน (Emergency Response Center) ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี จำนวน 2 แห่ง และ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง จำนวน 1 แห่ง ดำเนินการโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการดับเพลิงและบรรเทาสาธารณภัยที่ผ่านการอบรมตามกฎหมาย โดยลูกค้าสามารถติดต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์สายตรงของศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ตลอด 24 ชั่วโมง
บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น เพลิงไหม้ และสารเคมีรั่วไหล ภายในโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการของบริษัทฯ ดังนั้นบริษัทฯ จึงได้จัดตั้งโรงเรียนสอนการดับเพลิงสำหรับอุตสาหกรรมขึ้น โดยให้บริการฝึกอบรมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ในเรื่องความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ตลอดจนการป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานประกอบการ ให้แก่โรงงานที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง เพื่อส่งเสริมให้นิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่งเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัย มีอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และพนักงานที่ทำงานในสถานประกอบการสามารถปฏิบัติตนได้ถูกต้องในกรณีที่เกิดอัคคีภัยขึ้นในสถานประกอบการ
ในปี 2567 บริษัทฯ เข้าระงับเหตุอัคคีภัยให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมทั้งสองแห่งไปทั้งสิ้น 11 ครั้ง และบริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ดังนี้
การบริหารจัดการข้อร้องเรียนจากลูกค้า
บริษัทฯ จัดให้มีช่องทางในการรับข้อร้องเรียนที่หลากหลายเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย และพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อร้องเรียน ตามมาตรฐาน ISO 14001: 2015 เพื่อให้ลูกค้าสามารถแจ้งข้อมูลได้โดยตรง และได้รับการจัดการปัญหาในระยะเวลาที่กำหนด โดยเมื่อได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้า ผู้รับเรื่องร้องเรียนจะดำเนินการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อแก้ไขข้อร้องเรียนภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อการแก้ไขแล้วเสร็จ จึงติดต่อกลับไปที่ผู้ร้องเรียน เพื่อรายงานผลการแก้ไข และข้อร้องเรียนจะถูกบันทึกไว้เป็นฐานข้อมูลการร้องเรียนของบริษัทฯ ต่อไป
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสาธารณูปโภคและการบริการจำนวนทั้งสิ้น 489 รายการ จำแนกเป็นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาในระบบการบริหารจัดการน้ำดิบ น้ำประปาและน้ำเสียจำนวน 180 รายการ คิดเป็นร้อยละ 36.81 ของข้อร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาเป็นข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะมูลฝอยจำนวน 136 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 27.81 ของข้อร้องเรียนทั้งหมดปัญหาการจราจรจำนวน 110 รายการ คิดเป็นร้อยละ 22.49 ของข้อร้องเรียนทั้งหมด และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสาธารณูปโภคพื้นฐานจำนวน 63 รายการ คิดเป็นร้อยละ 12.88 โดยข้อร้องเรียนทั้งหมดได้ถูกดำเนินการแก้ไข และแจ้งกลับลูกค้าแล้วทั้งสิ้นร้อยละ 100
หน่วยงานผู้รับผิดชอบได้นำข้อร้องเรียนของลูกค้าที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกัน และได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารให้รับทราบและอนุมัติดำเนินการต่อไป ตัวอย่างเช่น กรณีข้อร้องเรียนด้านการจราจร บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้นำข้อมูลข้อร้องเรียนย้อนหลังที่ได้บันทึกไว้ภายในระยะเวลา 3 ปี มาวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ อาทิ สาเหตุหลักและสาเหตุรองของการเกิดอุบัติเหตุ พื้นที่ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง ความรุนแรงของการเกิดเหตุ ความเร่งด่วนที่ต้องได้รับการแก้ไขตามระดับความรุนแรง ความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเหตุ และจากสภาพพื้นที่หน้างานจริง เพื่อนำมากำหนดแนวทางป้องกันและแก้ไข ทั้งด้านโครงสร้างทางวิศวกรรม รูปแบบการบริหารจัดการ โดยสรรหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในการทำงานควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ยังมีการตรวจติดตามผลภายหลังการปรับปรุงแก้ไขในจุดที่มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินความสำเร็จและประสิทธิภาพของการแก้ไข
ความพึงพอใจของลูกค้า
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้จัดสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำนวน 46 แห่งทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี ใน 7 ด้าน ประกอบไปด้วย 1. ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ 2. ด้านราคาขาย/เช่าพื้นที่/ค่าบำรุงรักษา/ค่าน้ำ/ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ 3. ด้านจุดให้บริการผู้ใช้บริการ 4. ด้านช่องทางการติดต่อสื่อสาร 5. ด้านคุณภาพของพนักงาน 6. ด้านขั้นตอนและกระบวนการให้บริการ และ 7. ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (ภายในพื้นที่อุตสาหกรรม)
ในปี 2567 ผลการประเมินของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ได้รับคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยที่ 95% และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ได้รับคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยที่ 92.6% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ที่ 90%
นอกจากนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะอย่างละเอียดมากขึ้น บริษัทฯ จึงได้ทำการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าเป็นประจำทุกปี ด้วยวิธีตอบแบบสอบถามและวิธีติดต่อโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของโรงงานผู้ประกอบการในแต่ละอุตสาหกรรมโดยตรงเพื่อรับทราบถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าในอนาคต ตลอดจนปัญหาและข้อกังวลใจของลูกค้าที่ต้องการการสนับสนุนจากบริษัทฯ เช่น ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในด้านกฎระเบียบข้อบังคับและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเรื่อง ESG ในปัจจุบัน
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้งสองแห่ง ในด้านสินค้าและการบริการรวม 10 ด้าน ประกอบด้วย 1. การบริหารจัดการน้ำและน้ำเสีย 2. ถนน สัญญาณไฟจราจร ป้าย และไฟถนน 3. การรักษาความปลอดภัยและความปลอดภัย 4. การเตรียมความพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไฟไหม้ 5. การจัดการพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว 6. การรวบรวมขยะมูลฝอย 7. การบริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต 8. สิ่งอำนวยความสะดวก 9. การบริการของพนักงานบริษัทฯ และ 10. ช่องทางการสื่อสารและการจัดกิจกรรม
ผลคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรีเท่ากับ 78.2% และนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยองเท่ากับ 79.7% โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ทั้งสองพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีการวางแผนพัฒนากระบวนการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านการจัดตั้ง Customer Community ที่หลากหลายและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพื่อสำรวจความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพของกระบวนการบริหารจัดการข้อร้องเรียนที่ช่วยยกระดับความพึงพอใจของผลิตภัณฑ์และบริการ
+84 251 3991 007 (ใต้)
+84 203 3567 007 (เหนือ)
+95 1 230 5627
(+856) 21 810007
(+856) 20 5710007 (ภาษาจีน)
(+856) 20 57550007 (ภาษาอังกฤษ)
© AMATA CORPORATION PCL. All rights reserved. Web by Toneyes