สิทธิมนุษยชนในการดำเนินธุรกิจ

ความเสี่ยง

บริษัทฯ ดูแลพื้นที่เมืองขนาดใหญ่และเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมาก หากบริษัทฯ ไม่มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน  หรือกลไกควบคุมการดำเนินงานที่ดีทั้งของบริษัทฯ เอง และคู่ค้าของบริษัทฯ อาจทำให้บริษัทฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในประเทศและระดับสากล

โอกาส

หากบริษัทฯ มีการประเมินความเสี่ยงด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความเสี่ยงในการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดจากกิจกรรมของบริษัทฯ หรือคู่ค้าและผู้รับเหมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์และส่งเสริมความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มที่มีต่อบริษัทฯ

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ ตระหนักถึงผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าตามหลักปรัชญา “ALL WIN” เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ มีบทบาทสำคัญทั้งการเป็นผู้ส่งเสริมผลกระทบเชิงบวกในด้านสิทธิมนุษยชน จากการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น การสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในชุมชน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนให้เข้าถึงการศึกษา การสาธารณสุข สาธารณูปโภคและการบริการพื้นฐานที่ดี แต่ในขณะเดียวกันธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมก็มีโอกาสที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้มีส่วนได้เสียเหล่านี้ได้เช่นกัน จากการสร้างมลภาวะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและรบกวนความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน ลักษณะการทำงานหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ปลอดภัยเป็นอันตรายต่อพนักงาน แรงงาน หรือคนในชุมชนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน การละเลยผลกระทบต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียดังกล่าว อาจมีผลทำให้บริษัทฯ ไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มอื่น ๆ หรือถูกต่อต้านจากสังคม ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและผลประกอบการในอนาคตก็เป็นได้

บริษัทฯ จึงกำหนดกระบวนการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อแสดงความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบของบริษัท ฯ ในการติดตามและตรวจสอบสถานะสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน (Human Rights Due Diligence) ดังนี้

นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชน

บริษัทฯ ได้กำหนด “นโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม” เพื่อปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในทุกกิจกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าอย่างเป็นธรรมและเหมาะสมตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยได้ยึดถือปฏิบัติตามกฎหมายทั้งในประเทศไทยและในประเทศที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจอยู่ ตลอดจนกำหนดแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับหลักการปฏิบัติ ทั้งในระดับประเทศและสากลว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงาน อาทิ หลักการด้านมนุษยธรรมและสิทธิขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights: UDHR) แห่งสหประชาชาติ (United Nations) และข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (Principles of the United Nations Global Compact – UNGC) หลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs) ปฏิญญาว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน (Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) และยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตามปรัชญาทางธุรกิจ ALL WIN หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจรรยาบรรณธุรกิจ ตลอดจนให้ความสำคัญกับปัญหาสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มในห่วงโซ่คุณค่า โดยประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบอย่างรอบด้าน

ซึ่งในนโยบายฉบับนี้มีเนื้อหาครอบคลุมแนวปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งภายในและภายนอกองค์กร ด้วยความเคารพในสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีความหลากหลาย ความเสมอภาค และการไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึงเคารพในสิทธิของแรงงานที่ครอบคลุมเรื่องการต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับ การส่งเสริมสิทธิในการรวมตัวกันโดยสันติและเสรีภาพในการสมาคม รวมถึงการเข้าร่วมกลุ่มเพื่อเจรจาต่อรอง นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางธุรกิจครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบอาจเกิดขึ้นต่อผู้มีส่วนได้เสียด้านสุขภาพและความปลอดภัย ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมีการทบทวนนโยบายทั้งหมดเป็นประจำทุกปี และสื่อสารให้พนักงานและผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียรับทราบโดยทั่วกัน

ศึกษารายละเอียดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรมเพิ่มเติมได้ที่นี่

บริษัทฯ กำหนดให้ คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ ต้องตระหนักถึงความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนในทุกด้านของบุคคลทุกคน ทั้งต่อพนักงาน ลูกค้า คู่ค้าและผู้รับเหมา ชุมชน ตลอดจนสังคมโดยรวม ตามกฎหมายแต่ละประเทศที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินธุรกิจ และพร้อมสนับสนุนตามสนธิสัญญาที่แต่ละประเทศมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติ โดยรวมถึงหลีกเลี่ยงการกระทำและการมีส่วนร่วมในการอันละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือสร้างผลกระทบเชิงลบด้านสิทธิมนุษยชน

กระบวนการตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน

ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญ

บริษัทฯ พบว่ามีประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทานจำนวนรวม 14 ประเด็น และทำการประเมินระดับความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนโดยพิจารณาใน 2 มิติ ได้แก่ ระดับความรุนแรงของผลกระทบ (severity) ซึ่งพิจารณาจาก scale, scope, irremediability และโอกาสความเป็นไปได้ (likelihood) และแสดงลำดับความสำคัญของความเสี่ยงในตาราง 4x4 Human Rights Risk Matrix ซึ่งจัดลำดับเป็น 3 ระดับ คือ ความเสี่ยงระดับสูง ความเสี่ยงระดับปานกลาง และความเสี่ยงระดับต่ำ

    • ระดับความเสี่ยงสูง คือ ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีความสำคัญมาก ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วพร้อมมาตรการป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติม
    • ระดับความเสี่ยงปานกลาง คือ ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีมาตรการจัดการในปัจจุบันและสามารถบรรเทาผลกระทบลงได้บ้าง แต่ยังต้องการมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติม
    • ระดับความเสี่ยงต่ำ คือ ประเด็นความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่มีมาตรการป้องกันหรือควบคุมความเสี่ยงในปัจจุบันอย่างเพียงพอ แต่ยังคงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ

การจัดการความเสี่ยง

ขอบเขต การดำเนินงานของบริษัทฯ

StakeholderHuman Rights IssueCompany’s Implementation of Human Rights Impact Reduction
พนักงาน

สิทธิแรงงาน

  • สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน (A1)

  • จัดให้มีการดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยในสถานที่ทำงานตามนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
  • สภาพการจ้างงานของพนักงาน (A2)
  • การเลือกปฏิบัติและความไม่เท่าเทียมกันในสถานที่ทำงาน (A3)
  • ปฏิบัติต่อพนักงานโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน ตามหลักกฎหมายแรงงานในประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจและหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติต่อพนักงานด้วยความเสมอภาค (Equity) ความเท่าเทียม (Equality) และการไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discrimination) ในทุกมิติ
  • เสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรอง (A4)
  • จัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการที่มีพนักงานร่วมเป็นกรรมการ
  • จัดให้มีช่องทางการร้องเรียนและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเยียวยาที่เหมาะสม
ชุมชน

สิทธิชุมชน

  • สุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน (A5)
  • ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน (A6)
  • รับฟังความคิดเห็นและติดตามสำรวจผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มีต่อชุมชนโดยรอ
  • ดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน
  • เปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือร้องเรียนในช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อร่วมกันดูแลความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมโดยรวมในพื้นที่
  • ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และจัดเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและภาวะวิกฤตที่มีประสิทธิภาพ
  • กำหนดมาตรการเยียวยาที่เหมาะสมในกรณีที่บริษัทฯ ได้กระทำการเป็นเหตุให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชุมชน
ลูกค้า

สิทธิของลูกค้า/ผู้บริโภค

  • คุณภาพสินค้าและบริการ (A7)

  • ส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสามารถทวนสอบย้อนกลับได้ (traceability)
  • มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนจากลูกค้าอย่างเป็นระบบ
  • สุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า (A8)
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
  • จัดเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและภาวะวิกฤตในนิคมอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพที่สามารถบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าได้
  • ออกแบบอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดคล้องกับหลักการอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานของทุกคน รวมถึงผู้สูงอายุ คนพิการ ในบริเวณอาคารของโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าสำหรับเช่าแห่งใหม่
พนักงาน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ธุรกิจ

สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล

  • ข้อมูลความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล (A9)

  • ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเป็นมาตรฐานการจัดการและแนวปฏิบัติที่ดี
  • จัดให้มีกระบวนการควบคุมการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและความลับทางธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎหมายและนโยบาย
  • ประกาศนโยบายการจัดชั้นความลับข้อมูล และแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย หรือการแก้ไขข้อมูลโดยผู้ที่ไม่มีอำนาจ
  • ฝึกอบรมพนักงานให้ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมีการติดตามตรวจสอบเป็นประจำ
คู่ค้าและผู้รับเหมา

สิทธิของคู่ค้าและผู้รับเหมา

  • สุขภาพและความปลอดภัยของคู่ค้าและผู้รับเหมา (A10)

  • ปฏิบัติต่อคู่ค้าด้วยความเสมอภาค (equity) ยุติธรรม โปร่งใส และการไม่เลือกปฏิบัติ (non-discrimination)
  • ดูแลสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานให้มีความมั่นคงปลอดภัย
  • กำหนดให้คู่ค้าและผู้รับเหมาปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
  • มีช่องทางการร้องเรียนและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเยียวยาที่เหมาะสม

ขอบเขต กิจกรรมในห่วงโซ่อุปทาน โดยคู่ค้าและผู้รับเหมา และลูกค้าในนิคมฯ

StakeholderHuman Rights IssueCompany’s Implementation of Human Rights Impact Reduction
แรงงานของคู่ค้าและผู้รับเหมา

สิทธิแรงงาน

  • สุขภาพและความปลอดภัยของแรงงานของคู่ค้าและผู้รับเหมา (S1)
  • สภาพการจ้างงานของแรงงานของคู่ค้าและผู้รับเหมา (S2)

  • ประกาศจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าของอมตะ (Supplier Code of Conduct) ให้คู่ค้าและผู้รับเหมารับทราบและปฏิบัติให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์และแนวทางปฏิบัติของบริษัทฯ ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติต่อแรงงาน
  • ตรวจประเมินความเสี่ยงด้านการปฏิบัติต่อแรงงานและความปลอดภัยในการทำงานของคู่ค้าและผู้รับเหมารายสำคัญและรายใหม่ก่อนการว่าจ้าง
  • ตรวจติดตามการปฏิบัติงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาทั้งด้านแรงงานและด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ
  • กำหนดให้คู่ค้าและผู้รับเหมามีมาตรการป้องกันและรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น
ชุมชน

สิทธิชุมชน

  • สุขภาพและความปลอดภัยของชุมชน (S3)
  • ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน (S4)

  • สำรวจและรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนในเรื่องผลกระทบที่มีต่อชุมชนโดยรอบ จากการดำเนินงานของคู่ค้าและผู้รับเหมา รวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม
  • มีช่องทางการร้องเรียนและกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
  • กำหนดให้คู่ค้าและผู้รับเหมามีมาตรการป้องกันและรับผิดชอบต่อผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้น
  • ตรวจติดตามการปฏิบัติงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาทั้งด้านแรงงานและด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่าง ๆ
  • ติดตามตรวจสอบลูกค้าผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และประสานงานเพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นจากลูกค้า
  • กำกับดูแลให้คู่ค้าและผู้รับเหมามีมาตรการเยียวยาที่เหมาะสมในกรณีที่คู่ค้าและผู้รับเหมากระทำการเป็นเหตุให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชุมชน

แนวทางการบริหารจัดการด้านสิทธิเด็ก

ตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยึดปรัชญา ALL WIN ในการดำเนินธุรกิจอย่างเคร่งครัด โดยมีเป้าหมายให้ผู้มีส่วนได้เสีย ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ ได้รับประโยชน์และเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ อย่างยั่งยืนในทุกมิติ แม้ว่า ประเด็นด้านสิทธิเด็ก จะยังไม่ถูกยกระดับขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ แต่การขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมที่บริษัทฯ ดำเนินการในทุกพื้นที่ย่อมเกี่ยวข้องทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ต่อคุณภาพชีวิต โอกาส และการเจริญเติบโตในสังคมของเด็ก ที่อาศัยอยู่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมอมตะทั้งสองแห่ง อีกทั้งในปัจจุบัน ประเด็นด้านสิทธิเด็กถูกให้ความสำคัญในระดับสากล บริษัทฯ จึงคำนึงถึงการดำเนินงานที่เคารพต่อสิทธิเด็กตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจด้วย

นอกจากแนวปฏิบัติด้านสิทธิเด็กที่ได้กำหนดไว้ในนโยบายเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานแล้ว บริษัทฯ ได้ใช้หลักการ “สิทธิเด็กและหลักปฏิบัติทางธุรกิจ” (Children’s Right and Business Principle; CRBP) โดยองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) มาเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เคารพต่อสิทธิเด็ก ประกอบไปด้วย 4 หลักการที่ธุรกิจจะสร้างผลกระทบต่อเด็กคือ 1) การสนับสนุนให้เด็กสามารถดำรงชีวิตได้ (survival) 2) การปกป้องเด็กจากความรุนแรง (protection) 3) การพัฒนาที่เหมาะสม (development) และ 4) การเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วม (participation)  โดยกำหนดกรอบการดำเนินการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองสมบูรณ์แบบที่สร้างโอกาสให้กับเด็ก และตอบสนองต่อหลักการ CRBP ดังนี้

เมืองแห่งความปลอดภัย (Safety City)

เพื่อสร้างสังคมที่ร่วมป้องกัน (protection) และสนับสนุนการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัย (survival) โดยบริษัทฯ ได้ประกาศนโยบาย และหลักจรรยาบรรณธุรกิจสำหรับคู่ค้าและผู้รับเหมา (supplier code of conduct) ที่ป้องกันไม่ให้ใช้แรงงานเด็กอย่างเคร่งครัด รวมถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจที่ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในสังคมที่เด็กอาศัยอยู่ เช่น การพัฒนาเมืองสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (smart environment) ที่ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ การบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ และลดการฝังกลบ (zero waste to landfill) เป็นต้น

เมืองแห่งโอกาส (Opportunity)

บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้เด็กในชุมชนโดยรอบมีโอกาสในการเข้าถึงสาธารณูปโภค และบริการต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และศูนย์การค้า

เมืองแห่งการศึกษา (Edu-town)

บริษัทฯ ได้ผสานความร่วมมือของหุ้นส่วนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ และการศึกษาขึ้นอย่างหลากหลายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ทั้งสองแห่ง เช่น ศูนย์การเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการน้ำ ห้องการเรียนรู้อัจฉริยะ (smart classroom) พื้นที่สวนสาธารณะเพื่อการนันทนาการ

ผลการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน

การอบรมด้านสิทธิมนุษยชน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 บริษัทฯ ได้จัดอบรมหลักสูตรความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้แก่ผู้บริหารและพนักงาน ในหัวข้อ การสร้างวัฒนธรรมแห่งความเคารพและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสถานที่ทำงาน (Building a Culture of Respect : Upholding Human Rights at the Workplace) โดยวิทยากรผู้ชำนาญการจาก UN Global Compact มีเนื้อหาเกี่ยวกับความหมาย แนวคิด และความสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชน ประเภทของสิทธิมนุษยชน ตลอดจนความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบและการเคารพสิทธิมนุษยชนในทุกกิจกรรมทางธุรกิจ  โดยเฉพาะในที่ทำงาน โดยมีพนักงานจากทุกหน่วยงานเข้าร่วมการอบรมทั้งหมด 82 คน คิดเป็นร้อยละ 27 ของพนักงานทั้งหมด

การติดตามการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานในห่วงโซ่อุปทาน

ในปี 2567 บริษัทฯ ไม่พบข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงาน รวมถึงการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ ทั้งในบริษัทฯ และในห่วงโซ่อุปทานแต่อย่างใด แต่บริษัทฯ ได้รับข้อร้องเรียนจากชุมชนเกี่ยวกับดินร่วงหล่นบนถนนและปัญหาฝุ่นละออง ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนและชุมชนโดยรอบ จากการดำเนินงานของผู้รับเหมาที่กำลังพัฒนาที่ดินเพื่อก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 1 กรณี

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บริษัทฯ ได้กำชับให้ผู้รับเหมาดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างเคร่งครัด โดยการกำหนดความเร็วสำหรับรถบรรทุกดินของผู้รับเหมาพร้อมทั้งแจ้งให้มีการคลุมผ้าใบ จัดให้มีจุดทำความสะอาดล้อรถบรรทุกดินและพนักงานทำความสะอาดถนนที่รถบรรทุกดินวิ่งผ่านพร้อมการฉีดพรมน้ำทั้งในช่วงเวลาเช้าและเย็น กำหนดช่วงเวลาวิ่งของรถบรรทุกดินให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนและควบคุมปริมาณการบรรทุกให้เป็นไปตามกฎหมาย และมอบหมายให้ฝ่ายวิศวกรรมติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด หากผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว บริษัทฯ จะพิจารณายกเลิกสัญญาว่าจ้างต่อไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ประสานงานกับผู้รับเหมาที่สร้างผลกระทบเพื่อให้รับผิดชอบเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งด้านการเงินและการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดให้มีมาตรการเพื่อป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนในอนาคต เช่น จัดประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง จัดตั้งไลน์กลุ่มสำหรับประสานงานโดยเฉพาะ และการกำหนดมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้มั่นใจว่าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ร่วมสร้างอนาคต
ไปกับอมตะ

ร่วมสร้างอนาคต
ไปกับอมตะ

ติดต่อเราเพิ่มเติม

ประเทศไทย
+66 38 939 007
เวียดนาม

+84 251 3991 007 (ใต้)
+84 203 3567 007 (เหนือ)

พม่า

+95 1 230 5627

ลาว
+85 620 5758 0007