ความเสี่ยง

การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมนั้นแม้ว่าจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศและชุมชนท้องถิ่น แต่ในขณะเดียวกันการใช้ประโยชน์ที่ดินและการขยายตัวของชุมชนเมืองเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นย่อมส่งผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศในพื้นที่ การลดลงของความหลากหลายทางชีวภาพ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงด้านความสมดุลของระบบนิเวศในพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบหลักของการดำเนินธุรกิจเช่น น้ำ และคุณภาพของสิ่งแวดล้อมโดยรวม ตลอดจนกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในพื้นที่

โอกาส

บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองที่มีความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับการดูแลรักษาคุณภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกันกับชุมชนโดยรอบได้อย่างราบรื่น การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพให้คงอยู่อย่างมีคุณภาพและสมดุล จะสามารถส่งต่อทรัพยากรที่เพียงพอ และสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีส่วนได้เสียทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้แก่คนรุ่นต่อไปได้อย่างยั่งยืน

แนวทางการบริหารจัดการ

บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันเกิดจากการใช้ประโยชน์และพึ่งพาทรัพยากรและสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ โดยไม่คำนึงถึงขีดจำกัดและศักยภาพในการฟื้นตัว รวมถึงผลกระทบจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่ดิน ป่าไม้ พืชพรรณ และสิ่งมีชีวิตที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความสูญเสียทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน ทั้งในด้านความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาเศรษฐกิจ การชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยกำหนด “นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ” เพื่อป้องกันความเสียหายและลดผลกระทบที่มีต่อความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะ และเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่ร่วมกัน ดูแล ฟื้นฟู และอนุรักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะทุกแห่ง

ศึกษารายละเอียดนโยบายได้ที่นี่

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง นิคมอุตสาหกรรมอมตะสมาร์ทซิตี้ ชลบุรี และนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี 2 ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2562 และไม่มีพื้นที่อนุรักษ์และพื้นที่คุ้มครองตามประกาศของหน่วยงานภาครัฐเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือพื้นที่ระบบนิเวศที่มีความสำคัญที่ได้รับประกาศจัดตั้งทั้งในระดับประเทศและสากล อยู่ในเขตรัศมี 5 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 4 แห่งของบริษัทฯ อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเกิดได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน การขยายตัวของชุมชนเมืองโดยรอบนิคม มลพิษที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินงานของคู่ค้าและผู้รับเหมาของบริษัทฯ เป็นต้น โดยสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กระบวนการพัฒนาที่ดินของบริษัทฯ ไปจนถึงเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จกลายเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม

บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะทุกแห่งอย่างเป็นระบบ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยอ้างอิงตามแนวคิดขององค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) ว่าด้วยการชดเชยความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Offset) ที่มีลำดับขั้นของการลดผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Mitigation Hierarchy) ประกอบไปด้วย 4 ระดับ ได้แก่ การหลีกเลี่ยง การลดผลกระทบ การฟื้นฟู และการชดเชย

บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงและลดผลกระทบ รวมถึงการฟื้นฟูและชดเชยผลกระทบเชิงลบที่อาจที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด ดังนี้

การบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ

บริษัทฯ มีนโยบายในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมและคนในชุมชนโดยรอบ  บริษัท ฯ จึงกำหนดเป็นเป้าหมายในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งให้มีพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ดำเนินงานแล้วทั้งหมดของนิคมอุตสาหกรรม บริษัทฯ ได้จัดทำผังแม่บทและกำหนดแผนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะรายปี เพื่อดำเนินการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว (restoration) ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้กำหนดชนิดพันธุ์ต้นไม้ในการปลูกโดยอ้างอิงข้อมูลประเภทป่าไม้ของจังหวัดชลบุรีและระยอง ของกรมป่าไม้  ซึ่งพื้นที่ป่าบนบก (terrestrial forest) ส่วนใหญ่ในจังหวัดชลบุรีและระยอง เป็นพื้นที่ป่าประเภทป่าเบญจพรรณ (mixed-deciduous forest) และป่าดิบแล้ง (dry evergreen forest)

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี มีพื้นที่โครงการทั้งหมดรวม  20,195 ไร่ (3,231 เฮกตาร์) มีพื้นที่ที่ดำเนินงานแล้วทั้งหมด 17,892 ไร่ (2,863 เฮกตาร์) และมีพื้นที่สีเขียวทั้งหมด 2,085 ไร่ (334 เฮกตาร์) คิดเป็นร้อยละ 11.65 ของพื้นที่ที่ดำเนินงานแล้ว ในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มเติมภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี แต่มีการปลูกไม้ยืนต้นทดแทนต้นไม้ที่ตายลง และดูแลปรับปรุงภูมิทัศน์ให้คงความสวยงาม โดยพันธุ์ไม้ยืนต้นเป็นชนิดพันธุ์ท้องถิ่นทั้งหมดร้อยละ 100 ซึ่งเป็นชนิดที่พบในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเป็นชนิดพันธุ์ไม้ของป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ตามรายงานของกรมป่าไม้และมีความทนต่อสภาพดินเค็ม เช่น พะยูง ยางนา ตะแบก กัลปพฤกษ์ ทรงบาดาล นนทรี ตะแบกน้ำ แคนา มะฮอกกานี ประดู่ป่า มะขาม มะขามเทศ เป็นต้น

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 17,898 ไร่ (2,864 เฮกตาร์) มีพื้นที่ที่ดำเนินงานแล้วทั้งหมด 15,782 ไร่ (2,525 เฮกตาร์) และมีพื้นที่สีเขียวทั้งหมด 1,655 ไร่ (265 เฮกตาร์) คิดเป็นร้อยละ 10.49 ของพื้นที่ที่ดำเนินงานแล้ว ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินการปลูกไม้ยืนต้นภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ไปทั้งสิ้น 500 ต้น โดยมีอัตราการรอดตายของกล้าไม้เท่ากับร้อยละ 90 ซึ่งจะมีการปลูกทดแทนกล้าไม้ที่ตายไปอยู่เสมอ โดยปลูกไม้ยืนต้นชนิดพันธุ์ท้องถิ่นทั้งหมดร้อยละ 100 ซึ่งเป็นชนิดที่พบในพื้นที่จังหวัดระยอง และเป็นชนิดพันธุ์ไม้ของป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง ตามรายงานของกรมป่าไม้ เช่น ต้น มะค่า หว้า ยางนา พะยอม ตะแบก ขี้เหล็ก มะขาม อินทนิล มะฮอกกานี  เป็นต้น

นิคมอุตสาหกรรมอมตะสมาร์ทซิตี้ ชลบุรี

นิคมอุตสาหกรรมอมตะสมาร์ทซิตี้ ชลบุรี มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 8,227 ไร่ (1,316 เฮกตาร์) บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่นี้ตั้งแต่ปี 2566 รวมพื้นที่ที่จะเปิดดำเนินการเป็นนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 4,507 ไร่ (721 เฮกตาร์) โดยในพื้นที่ส่วนนี้กำหนดเป็นพื้นที่สีเขียวจำนวน 582 ไร่ (93 เฮกตาร์) คิดเป็นร้อยละ 12.92 ของพื้นที่ที่จะเปิดดำเนินการเป็นนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการพัฒนา

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2

นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 1,941 ไร่ (311 เฮกตาร์) บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่นี้ตั้งแต่ปี 2567 รวมพื้นที่ที่จะเปิดดำเนินการเป็นนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 1,941 ไร่ (311 เฮกตาร์) โดยในพื้นที่ส่วนนี้กำหนดเป็นพื้นที่สีเขียวจำนวน 274 ไร่ (44 เฮกตาร์) คิดเป็นร้อยละ 14.13 ของพื้นที่ที่จะเปิดดำเนินการเป็นนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการพัฒนา

การพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้เป็นผืนป่าชุมชน

บริษัทฯ จัดทำโครงการร่วมกับโรงงานผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะรกร้างให้กลายเป็นพื้นที่ผืนป่าชุมชน ด้วยการร่วมกันปลูกพันธุ์ไม้ท้องถิ่นยืนต้น เช่น โครงการ Forest for Life ปลูกป่า ปลูกชีวิต ร่วมกับบริษัท โตไค ริคะ (ไทยแลนด์) จำกัด ปลูกป่าในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ขนาด 12 ไร่ โดยระยะเวลาโครงการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2567 ในปี 2567 ปลุกต้นไม้จำนวน 5,800 ต้น บนเนื้อที่ 3 ไร่ รวมต้นไม้ที่ปลูกในโครงการจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น  29,000 ต้น บนพื้นที่ 12  ไร่

ในปี 2567 ต้นไม้ที่ปลูกบนพื้นที่สาธารณะนี้ มีอัตราการรอดมากถึงร้อยละ 97 และจะสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในอนาคตได้มากถึง 208 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ต่อปี (ข้อมูลอ้างอิงจากการเก็บฐานข้อมูลของบริษัท โตไค ริคะ (ไทยแลนด์) จำกัด)

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังร่วมกับ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง และหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้บางละมุง จัด “โครงการความร่วมมือเพิ่มพื้นที่สีเขียว และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (ปลูกป่าชุมชน)บริเวณป่าสงวนแห่งชาติบางละมุง หมู่ 1  ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทั้งนี้เพื่อขยายขอบเขตการพัฒนาจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสู่ชุมชนโดยรอบ ตามแนวทางการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ หรือ Eco Industrial Town  การปลูกป่าชุมชนนี้เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 โดยในปี 2567 มีพนักงานจิตอาสาและชุมชนกว่า 250 คน ร่วมกันปลูกต้นไม้พื้นถิ่น เช่น มะขาม ขี้เหล็ก สะเดา พิกุล จำนวน 1,000 ต้น รวมจำนวนต้นไม้ที่ปลูกแล้วทั้งสิ้น 7,000 ต้น เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับป่าชุมชนต่อไป

การอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำท้องถิ่น

ในปี 2567  บริษัทฯ ได้ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี และผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี กว่า  50 บริษัท จัดกิจกรรมปล่อยปลา ปลูกป่าชายเลน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา โดยปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน 16,000 ตัว และปลูกป่าโกงกางจำนวนกว่า 1,000 ต้น ณ ศูนย์การเรียนรู้เชิงอนุรักษ์ป่าชายเลน ตำบลคลองตำหรุ จังหวัดชลบุรี ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังช่วย เพิ่มจำนวนพันธุ์ปลาให้มีความหลากหลาย ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งอาหารและสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนได้ในอนาคตอีกด้วย 

ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่กลางน้ำ มีลำห้วยภูไทรซึ่งรับน้ำมาจากเขตลุ่มน้ำเขาไม้แก้ว ไหลผ่านพื้นที่นิคมฯ ก่อนจะไหลออกไปสู่อ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ความจุกว่า 79 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่กว่า 2.08 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,300 ไร่ ในจังหวัดระยอง แม้ว่าอ่างเก็บน้ำดอกกราย จะอยู่นอกเขตรัศมี 5 กิโลเมตรจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง แต่เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในเชิงระบบนิเวศน้ำจืด และแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของชุมชน เนื่องจากเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และพื้นที่ประมงพื้นบ้านของประชาชนในอำเภอนิคมพัฒนาจำนวนกว่า 500 หลังคาเรือน ทำให้ชุมชนท้องถิ่นเกิดความกังวลในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อคุณภาพน้ำ และส่งผลต่อสัตว์น้ำซึ่งเป็นแหล่งอาชีพดั้งเดิมที่สำคัญของชุมชน

บริษัทฯ จึงร่วมกับประมงจังหวัดระยองและกลุ่มบริหารทรัพยากรประมงอ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุมชนที่คอยดูแล ควบคุม การใช้ประโยชน์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำ และพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ เช่น หน่วยงานท้องถิ่น และโรงงานผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง พัฒนาโครงการ “อมตะร่วมใจพัฒนาแหล่งน้ำสู่ความยั่งยืน” เพื่อดูแล ฟื้นฟูแหล่งน้ำ รวมถึงอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์น้ำท้องถิ่น ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งอาชีพ และแหล่งอาหารของชุมชนแล้ว ยังสามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย

ในปี 2567 บริษัท อมตะซิตี้ ระยอง จำกัด บริษัท อมตะ ยู จำกัด ร่วมกับ กลุ่มบริหารทรัพยากรประมงอ่างเก็บน้ำดอกกราย สำนักงานประมงจังหวัดระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลพนานิคม จัดโครงการอนุรักษ์แหล่งน้ำอย่างยั่งยืน (ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือไตรภาคีในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ณ อ่างเก็บน้ำดอกกราย จ.ระยอง โดยมีพนักงานจิตอาสาจากสถานประกอบทั้งในและนอกนิคมฯ รวมถึงชุมชนมากกว่า 300 คน ร่วมกันปล่อยปลาจำนวนกว่า 350,000 ตัว  อาทิ ปลาจีน ปลากระโห้อินเดีย ปลายี่สกเทศ ปลากาดำ ปลาบึก และกุ้งก้ามกรามจำนวนกว่า 250,000 ตัว ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่ถูกสำรวจพบในพื้นที่อ่างเก็บน้ำโดยประมงจังหวัดระยอง ตั้งแต่ดำเนินโครงการมาจนถึงปี 2567 บริษัทฯ ได้ร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำไปแล้วมากกว่า 3,130,000 ตัว รวมถึงดำเนินกิจกรรมการทำบ้านปลา หรือ ซั้งปลา จากเชือกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นที่พักและหลบภัยให้กับพันธุ์สัตว์น้ำที่ปล่อย และเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ทั้งยังสร้างความหลากหลายทางชีวภาพให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ชนิดและจำนวนสิ่งมีชีวิตที่มาอาศัยอยู่บริเวณบ้านปลา

ผลการดำเนินกิจกรรมที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์ท้องถิ่น และเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนท้องถิ่นถึงคุณภาพน้ำที่ไหลผ่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง ว่าบริษัทฯ มีการจัดการ ควบคุม และเฝ้าระวังคุณภาพของน้ำเป็นอย่างดี ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนการสำรวจความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ของสัตว์น้ำ ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย ร่วมกับประมงจังหวัดระยอง และกลุ่มบริหารทรัพยากรประมงอ่างเก็บน้ำดอกกราย เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำในอนาคต

ร่วมสร้างอนาคต
ไปกับอมตะ

ร่วมสร้างอนาคต
ไปกับอมตะ

ติดต่อเราเพิ่มเติม

ประเทศไทย
+66 38 939 007
เวียดนาม

+84 251 3991 007 (ใต้)
+84 203 3567 007 (เหนือ)

พม่า

+95 1 230 5627

ลาว
+85 620 5758 0007